Software Development Team ต่างมี Process ในการ Develop Application ที่แตกต่างกันไปตามขนาดของทีม และความซับซ้อนของ Application แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นมาตรฐานที่ใช้กันทั่วไปก็คือ Agile โดยมีการแบ่งงานออกมาเป็นงานย่อยๆ และทะยอย Deliver ทีละส่วน (Iteration) focus ปัญหาเฉพาะอย่าง ทำให้การพัฒนาทำได้ง่าย มีประสิทธิภาพ และคาดการณ์ในการส่งมอบได้แม่นยำกว่าการพัฒนาทั้งหมดให้เสร็จในทีเดียว (water-fall) จะว่าไปแล้วการนำหลัก Agile มาใช้ก็ควรจะส่งผลดีต่อทีมในการ Deliver Software แต่ก็ไม่ใช่ทุกทีมจะ Success เนื่องจากไม่มีประสบการณ์ และมองภาพแค่การแบ่งงานออกเป็นชิ้นย่อยๆ การนำ Agile มาใช้เป็นแค่ปลายทางของ Process เท่านั้น จำเป็นต้องมี Process อื่นร่วมด้วยเช่น Design Thinking และ Lean โดยสรุปได้ดังภาพ

กระบวนการ Design Thinking เป็นขั้นตอนที่ทำให้เราเข้าใจปัญหา โดย Focus ที่ทำไมถึงเกิดปัญหาขึ้น (WHY) ด้วยกระบวนการ Discovery จาก Group session กับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด การพูดคุยกับ user (user interview) จาก code และวิเคราะห์จากข้อมูลต่างๆ ซึ่งผลลัพธ์ก็จะได้ปัญหาย่อยๆ หลายปัญหาก็เป็นได้ แต่ก็ต้องทำการ priority ว่า ปัญหาอะไรควรจะหยิบมาเข้ากระบวนการก่อนหลัง
หลังจากนั้นก็จะเข้ากระบวนการหาวิธีเพื่อที่จะแก้ปัญหาจากสมมุติฐานต่างๆ ด้วยการสร้างต้นแบบ (prototype) และประเมินผล รวมถึงปรับปรุง prototype เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหานั้นๆ จนออกมาเป็น MVP (Minimum Viable Product) เพื่อนำเข้าสู่การพัฒนา เป็นกระบวนการ Lean Methodology (WHAT) ที่จะได้ Product ที่ถูกต้องสำหรับปัญหานั้นๆ (build the right thing)
หลังจากนั้นถ้ามีเรื่องอื่นๆ อีกก็ต้องกลับไปทำกระบวนการ Design Thinking สร้างสมมุติฐานและสร้าง Prototype วน Loop แบบนี้เรื่อยๆ เพื่อให้สามารถสร้าง Product backlog ในกระบวนการ Agile ได้
ขั้นตอนสุดท้ายถึงจะเป็น Agile คือการแบ่งงานออกมาเป็นส่วนย่อยๆ (Product backlog) ทำการ Develop และ Deliver เพื่อให้เสร็จแต่ละรอบภายใน 1-2 สัปดาห์ (Sprint) ถ้าใช้เวลามากกว่านี้ต้องทำการแบ่งงานให้ย่อยลงไปอีก ซึ่งประสิทธิภาพของการพัฒนาในแต่ละรอบ (Iteration) ขึ้นอยู่กับคุณภาพของ Product backlog และความซับซ้อนของแต่ละ Features เพื่อที่จะทำให้สามารถทำงานได้จริง และง่ายต่อการใช้ ซึ่งก็คือการสร้าง Software ด้วยวิธีการที่ถูกต้อง (build the thing the right way)
รายละเอียดของแต่ละช่วงเวลา และ Practice ที่ใช้

